ปี 2565
28 กุมภาพันธ์ 2565-จำหน่ายไปซึ่งหุ้นในบริษัท เจฟเฟอร์ เรสเตอรองต์ จำกัดโดยบริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 7/2565 มีมติอนุมัติให้บริษัท เวฟ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด จำหน่ายไปซึ่งหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯเป็นจำนวนทั้งสิ้น 10,098,000 หุ้น (หุ้นสามัญ 10,049,000 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิ์49,000 หุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นจำนวนร้อยละ 100 ของหุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิที่จดทะเบียนและชำระเต็มมูลค่าแล้ว ให้กับกลุ่มนางสุดารัตน์ ศุภพงษ์เทวาสกุล (“ผู้ซื้อ ทั้งนี้ภายหลังจากการจำหน่ายหุ้นดังกล่าวของ Jeffer จะส่งผลให้ WAVE Food ไม่มีการถือหุ้นใน Jeffer อีกต่อไป และJeffer จะสิ้นสุดการเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ
11 เมษายน 2565-มติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(E-AGM) มีมติที่สำคัญสรุป ดังนี้
อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 471,083,245 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,415,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 943,916,755 บาทโดยการตัดหุ้นที่ไม่ได้ออกจำหน่าย และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 4. ของ หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯเพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
อนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 46,795,718 บาท และทุนสำรองส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 353,617,102 บาทเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ
อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 471,958,377.50 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 943,916,755 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 471,958,377.50 บาท และลดทุนชำระแล้วของบริษัทฯโดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ ของหุ้นของบริษัทฯจากเดิมมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทโดยมี จำนวนหุ้น คงเดิมเท่ากับ 943,916,755 หุ้น
อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในจำนวนไม่เกิน 235,578,510 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 471,958,377.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 707,536,887.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวนไม่เกิน 471,157,020 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 4.ของหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ เป็นจำนวนไม่ เกิน 471,157,020 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 0.50 บาทเพื่อรองรับการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ประชาชนทั่วไป (Public Offering) และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate)
27 มิ ถุนายน 2565 - การลดทุนจดทะเบียน และทุนชำ ระแล้วของ WAVE ในนาม บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WAVE) มูลค่าที่ตราไว้เดิม (บาท) : 1.00 และมูลค่าที่ตราไว้ใหม่ (บาท) : 0.50 และบริษัทได้มีการจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วเสร็จ วันที่มีผล 30 มิ .ย. 2565
5 สิงหาคม 2565 - ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2565 ที่จัดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 2565 มีมติอนุมัติให้จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันอังคารที่ 13 กันยายน 2565
การเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) การออก และเสนอขายใบสำคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ (WAVE-W3) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิฯWAVE-W3”) จำนวนไม่เกิน 2,617,539,003 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯที่ได้จองซื้อ และได้ชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯตามสัดส่วน การถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราส่วน 3 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ต่อ 1 หน่วย ใบสำคัญแสดงสิทธิโดยไม่คิดมูลค่า (หน่วยละ 0 บาท) โดยใบสำคัญแสดงสิทธิฯWAVE-W3 มี อัตราการใช้สิทธิตาม 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯWAVE-W3 ต่อ 1 หุ้นสามัญ และราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ เท่ากับ 0.15 บาทต่อหุ้น ดังรายละเอียดปรากฏตามสารสนเทศเกี่ยวกับการออก และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)
อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 235,578,510 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 707,536,887.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 471,958,377.50 บาทโดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่ายจำนวน 471,157,020 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯในจำนวนไม่เกิน 5,934,068,140.50 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 471,958,377.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 6,406,026,518 บาทโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน ไม่เกิน 11,868,136,281 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
อนุมัติการออก และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 3 (WAVE-W3) ในจำนวนไม่เกิน 2,617,539,003 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น
อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจำนวนไม่เกิน 11,868,136,281 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเพื่อ (1) รองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) (2) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 3 (WAVE-W3) และ(3) รองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 2 (WAVE-W2)
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2565 มีมติแต่งตั้ง นายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ เป็นกรรมการใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป และมีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของ นายอภิวัฒน์ เงินหมื่น
13 กันยายน 2565 - มติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) มีมติที่สำคัญสรุป ดังต่อไปนี้
อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 235,578,510 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 707,536,887.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 471,958,377.50 บาทโดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่ายจำนวน 471,157,020 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯในจำนวนไม่เกิน 5,934,068,140.50 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 471,958,377.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 6,406,026,518 บาทโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน ไม่เกิน 11,868,136,281 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
อนุมัติการออก และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 3 (WAVE-W3) ในจำนวนไม่เกิน 2,617,539,003 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น
อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจำนวนไม่เกิน 11,868,136,281 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเพื่อ (1) รองรับการจัสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) (2) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 3 (WAVE-W3) และ(3) รองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 2 (WAVE-W2)
16 กันยายน 2565 - นายสมศักดิ์ พยับเดชาชัย ลาออกจากกรรมการ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16กันยายน 2565 เป็นต้นไป
26 กันยายน 2565 - หม่อมหลวงนลินี หัสดินทร ลาออกจากกรรมการ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26กันยายน 2565 เป็นต้นไป
3 ตุลาคม 2565 - ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่5/2565 มีมติแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบแทนกรรมการตรวจสอบเดิมที่ลาออกของบริษัทโดยได้มีมติแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบคนใหม่ดังนี้ นายพิสิทธิ์ จูศิริวัฒน์ แทนนายสมศักดิ์ พยับเดชาชัย และ ดร.วีรวิชช์ ชาติวิวัฒน์พรชัย แทนหม่อมหลวงนลินี หัสดินทร โดยดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
17 ตุลาคม 2565 - นายชัยประนิน วิสุทธิผล และนายฟิลิป โอลิเวอร์ เพียซ กรรมการอิสระลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
20 ตุลาคม 2565 - ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 6/2565 มีมติแต่งตั้งกรรมการทดแทนกรรมการที่ลาออกดังนี้ นางพัฒน์นรี ฐิติอริยกุล กรรมการอิสระ แทน นายชัยประนิน วิสุทธิผล และนายเจมส์ แอนดริว มอร์ กรรมการแทน นายฟิลิปโอลิเวอร์ เพียซโดยดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 มีมติที่สำ คัญ ดังนี้ 1) แต่งตั้ง ดร. แคทลีน มาลีนนท์เป็นประธานคณะกรรมการบริษัทแทนนายแมทธิว กิจโอธาน 2) แต่งตั้งนายเจมส์แอนดริว มอร์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 3) แจ้งการลาออกของ นาย ประเสริฐ ภัทรดิลก จากกรรมการอิสระ และประธานตรวจสอบ 4) แจ้งการลาออกของ นางอังคณีย์ ฤกษ์ศิริสุข จากกรรมการบริษัท มีผลตั้งแต่ 1 พ.ย. 2565 เป็นต้นไป
มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชุดใหม่แทนคณะเดิมโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2565 (รายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบชุดใหม่ปรากฏอยู่ในรายงานหน้า 87-88)
บริษัทได้ดำ เนินการแจ้งย้ายที่ตั้งสำ นักงานใหญ่ จากที่ตั้งเดิม 3199 อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ ชั้น 15 ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ 02-665-6705 โทรสาร 02-665-6750 ย้ายไปที่ตั้งใหม่ เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิเขตห้วยขวาง กรุงเทพ 10310 โทรศัพท์ 02- 716-6900 โทรสาร -ไม่มี- ผ่านหน้าเว็บไซต์การแจ้งข่าวของตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2565
บริษัทได้ดำ เนินการแจ้งย้ายที่ตั้งสำ นักงานใหญ่อีกครั้ง ผ่านหน้าเว็บไซต์การแจ้งข่าวของตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2565 เนื่องจากมีการทบทวนเรื่องความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะรองรับการทำ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากที่ตั้งเดิม เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิเขตห้วยขวาง กรุงเทพ 10310 โทรศัพท์ 02- 716-6900 โทรสาร -ไม่มี- เปลี่ยนเป็น เลขที่ 2445/19-20, 2445/22 อาคารธารารมณ์ บิสซิเนส ทาวเวอร์ชั้น 14 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ10310 โทรศัพท์ 02-665-6705 โทรสาร -ไม่มี- โดยบริษัทฯจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน ไตรมาส 1 ปี 2566
ปี 2564
การลดทุนจดทะเบียนของบริษัทโดยการตัดหุ้นที่ไม่ได้ออกจำหน่าย ในเดือนมิถุนายน 2564 บริษัทได้มีการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 576,925,916 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,520,842,672 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 943,916,756 บาทโดยการตัดหุ้นที่ไม่ได้ออกจำหน่าย ที่รองรับการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) และการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (WAVE-W2) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ”)
การเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในเดือนมิถุนายน 2564 บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในจำนวน 471,083,244 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 943,916,756 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 1,415,000,000 บาท
ปี 2563
การลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด
-
การลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 24 มิ ถุนายน 2563 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด (“เมกะวัตต์”) ซึ่งประกอบธุรกิจด้านพลังงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทหรือคิดเป็น 28.36 % ของทุนจดทะเบียนของเมกะวัตต์ จำนวน 1,763 ล้านบาท
-
ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 บริษัทฯได้ชำระค่าหุ้นของเมกะวัตต์รวมทั้งสิ้น 2.85 ล้านหุ้น ที่มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาทรวมเป็นจำนวนเงิน 285 ล้านบาท คิดเป็น 29.20% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้วของเมกะวัตต์จำนวน 976 ล้านบาท
-
การเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น(Right Offering):ในเดือนตุลาคม 2563 บริษัทได้มีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวนไม่เกิน 701,927,387 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาทเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1.5 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.70 บาท และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (WAVE-W2) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ”) จำนวนไม่เกิน 350,963,694 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่ได้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท (Right Offering) ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ หน่วยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย (หน่วยล่ะ 0 บาท)
ปี 2562
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 กลุ่มบริษัทได้มี การขยายสาขาของธุรกิจผ่านระบบระบบแฟรนไชส์ดังนี้ บริษัท เวฟ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ของบริษัท วอลล์ สตรีท อิงลิช (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์หลัก (Master Franchise) การเปิดสถาบันโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ “Wall Street English” และสามารถให้สิทธิดังกล่าวต่อนักลงทุน และผู้สนใจทั่วไปทั้งในประเทศไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ โดยได้มีการเปิดให้บริการโดยแฟรนไซส์นี้แล้วจำนวน 1 สาขา ในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น บริษัท เจฟเฟอร์ เรสเตอรองต์ จำกัด ได้มีการเปิดให้บริการโดยแฟรนไซส์นี้แล้ว จำนวน 1 สาขา ที่จังหวัดชุมพร
ปี 2561
-
การขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 บริษัทได้ ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 46.75 ล้านหุ้น ให้แก่ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด
-
การจำหน่ายหุ้นในบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 บริษัทได้เข้าลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อจำหน่ายไปซึ่งหุ้นไม่เกิน 86 ล้านหุ้น คิดเป็น 50% ของทุนชำระแล้วของบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) (Index) ให้กับกลุ่มครอบครัว กาญจนะโภคิน (กลุ่มผู้ซื้อ) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมใน Index
ปี 2560
การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรายการโทรทัศน์ ในเดือนธันวาคม 2560 บริษัทได้มี การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรายการโทรทัศน์โดยการขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ ในบริษัท เวฟ ทีวี จำกัด คิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้ว ให้แก่ บริษัท เวฟ พิคเจอร์ส จำกัด (“ผู้ซื้อ”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัทโดยบริษัทถือหุ้นคิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้ว
ปี 2559
-
การเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ในเดือนมีนาคม 2559 บริษัทได้มีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำ นวนไม่ เกิน 97.20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 3.50 บาท
-
การจำ หน่ายหุ้น TSE บางส่วน เมื่ อเดือนพฤศจิกายน 2559 บริษัทได้จำหน่ายหุ้น TSE จำนวน 181.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียนที่ออกจำหน่าย และชำระเต็มมูลค่าแล้วของ TSE และภายหลังจากการจำหน่ายหุ้นของ TSE ดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้บริษัทมีการถือหุ้นใน TSE คงเหลือ คิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียนที่ออกจำหน่าย และชำระเต็มมูลค่าแล้วของ TSE
-
การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจการศึกษา ในเดือนธันวาคม 2559 บริษัทได้มี การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจการศึกษาของบริษัทเพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจไปสู่ประชาคมอาเซียนในกลุ่ม CLMV โดยการขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ ใน EES คิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้ว ให้แก่บริษัท เวฟ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ซีวีดี ออแกไนเซอร์ จำกัด) (“ผู้ซื้อ”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทโดยบริษัทถือหุ้นคิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้ว)
ปี 2558
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทได้ขยายธุรกิจ Entertainment ในธุรกิจการให้บริการสร้างสรรค์ และบริหารงานด้านการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ “Index” โดยการเข้าซื้อหุ้น จำนวน 86 ล้านหุ้น คิดเป็น 50% ของทุนออกจำหน่าย และชำระเต็มมูลค่าแล้วของบริษัท อินเด็กซ์ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน)
ปี 2557
-
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2557 บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจ Lifestyle โดยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เอ็ฟฟิเชียนท์ อิงลิช เซอร์วิสเซส จำ กัด (EES) ในสถาบันสอนภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ “Wall Street English”
-
บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ของ TSE จำนวนหุ้น 22 ล้านหุ้น ที่ ราคา 3.90 บาทต่อหุ้นรวมเป็นเงิน 85.80 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนใน TSE 20% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วใน TSE
-
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2557 บริษัทได้ขยายธุรกิจ Lifestyle เพิ่มเติมในธุรกิจร้านอาหารสเต๊กและอาหารทะเลภายใต้ชื่อ “Jeffer Steak & Seafood” โดยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทเจฟเฟอร์ เรสเตอรองต์ จำกัด ผ่านบริษัท เวฟ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
ปี 2556
บริษัทได้ขยายธุรกิจด้านบันเทิงโดยการเป็นผู้ผลิต และจัดจำ หน่ายภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 นายประชามาลีนนท์ ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทโดยบริษัทได้แต่งตั้งนายแมทธิวกิจโอธาน ให้ดำรงตำแหน่งแทน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2556 บริษัทชำ ระค่าหุ้นเพิ่มทุนใน TSE เพิ่มอีก 104.7 ล้านบาทรวมเป็นเงินลงทุน 341.2 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทถือหุ้นครบ 25% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วใน TSE
ปี 2555
บริษัทได้ขยายธุรกิจด้านบันเทิงโดยการเป็นผู้ให้บริการจัดแสดงคอนเสิร์ต และกิจกรรมต่างๆ
ปี 2554
-
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2554 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนเพิ่มในบริษัท ไทย โซล่าร์เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (TSE) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อจำหน่ายให้ภาครัฐ และเอกชนจาก 10% เป็นไม่เกิน 35% ของทุนจดทะเบียน TSE
-
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TSE มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนใน TSE คิดเป็นสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียน TSE
-
บริษัทชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนใน TSE เพิ่ม 117.5 ล้านบาทรวมเป็น 149.5 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนใน TSE 10.9% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วใน TSE
ปี 2553
บริษัทได้ขยายธุรกิจด้านบันเทิงโดยการเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรายการโทรทัศน์
ปี 2550
บริษัทได้ยกเลิกส่วนงานธุรกิจจัดหา และจัดจำหน่ายภาพยนตร์พร้อมลิขสิทธิ์
ปี 2545
บริษัทได้หยุดดำเนินการผลิตตลับวีดีโอสินค้าหลัก