ปี 2567

  • บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ร่วมกับ บริษัท โคลเมท ออฟเซ็ท แอ็คเซลเลอเรเทอร์ จำกัด และบริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่มีใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates: RECs) เป็นสินทรัพย์อ้างอิง

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทในจำนวนไม่เกิน 1,779,694,858 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 5,915,020,241 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 7,694,715,099 บาท โดยอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 3,559,389,717 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้น (Rights Offering) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 4 (WAVE-W4) และรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (WAVE-W3)

  • อนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวนไม่เกิน 2,303,125,446 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในราคาเสนอขาย 0.14 บาทต่อหุ้น บริษัทจำหน่ายหุ้นสามัญได้จำนวน 2,243,840,547 หุ้น จำนวนเงินที่ได้รับ 314,137,677 บาท หักค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมจดทะเบียนกระทรวงพาณิชย์ 250,000 บาท ค่าที่ปรึกษาและค่าดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 425,100 บาท รวมเป็นค่าใช้จ่าย 675,100 บาท ดังนั้น บริษัทได้รับเงินสุทธิจำนวน 313,462,577 บาท บริษัทได้จดทะเบียนการรับชำระค่าหุ้นสามัญดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567

  • บริษัท เวฟ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ Fun Learners’ School โรงเรียนกวดวิชาจากประเทศสิงคโปร์ ขยายเข้าสู่ธุรกิจการศึกษาภาษาจีน เพื่อเปิดสอนภาษาจีนในประเทศไทย

  • จัดตั้งบริษัทร่วมค้า ในนามบริษัท บีซีจีที จำกัด โดยให้ บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 49.99% จำนวน 100,000 หุ้น ที่ราคาพาร์ 5 บาท ร่วมกับบริษัท บรุ๊คเกอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดหาและรวบรวมใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs) ที่มีการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้ากับประเทศไทย (Connected Grid) เพื่อให้สามารถนำไปออกและเสนอขายเป็นยูทิลิตี้โทเคน (Utility Token) หรือโทเคนเพื่อการลงทุน (Investment Token)

 

ปี 2566

  • จัดตั้งบริษัท Wave BCG PTE ในประเทศสิงคโปร์ โดยให้ บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อเป็นคลังสินค้า และรองรับการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค

  • จำหน่ายหุ้นในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด (“เมกะวัตต์”) จำนวนทั้งสิ้น 2,850,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ให้แก่ บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ในราคาหุ้นละ 115 บาท มูลค่ารวม 327,750,000

  • การเปลี่ยนชื่อและตราประทับบริษัท จากเดิมชื่อ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 และการแก้ไขเพิ่มเติม ข้อบังคับ หนังสือบริคณห์สนธิได้รับบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นพันธมิตรเพื่อรองรับการขยายธุรกิจและพัฒนาโครงการ ในสัดส่วน 26 เปอร์เซ็นต์ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว โดยจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญในบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (“BCG”) จำนวนทั้งสิ้น 1,300,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 62.40 บาท มูลค่ารวม 81,120,000 บาท ทำให้บริษัทถือหุ้นในบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในสัดส่วน 74 เปอร์เซ็นต์

  • ได้รับบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นพันธมิตรเพื่อรองรับการขยายธุรกิจและพัฒนาโครงการ ในสัดส่วน 26 เปอร์เซ็นต์ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว โดยจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญในบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (“BCG”) จำนวนทั้งสิ้น 1,300,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 62.40 บาท มูลค่ารวม 81,120,000 บาท ทำให้บริษัทถือหุ้นในบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในสัดส่วน 74 เปอร์เซ็นต์

  • บริษัท เวฟ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป จำกัด สามารถขยายธุรกิจเฟรนไซส์ Wall Street English ใหม่ 2 สาขา ที่จังหวัดชลบุรี และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาโมเดลสถาบันสอนภาษาจีน รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ของสถาบันความชำนาญเฉพาะด้าน

  • บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด อยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาโครงการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง AWD Project, โครงการปลูกป่ารวมยาง และ โครงการ REC Token Project

  • ในปัจจุบันโครงการ AWD มีองค์กรที่สนใจเข้าร่วมสนับสนุนนโครงการ และ ชาวนาสนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว

  • โครงการ REC Token Project อยู่ในระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาคุณสมบัติของ Token เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน

  • บริษัท เวฟ เวลบีอิ้ง จำกัด อยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้เป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่มีเพิ่มขึ้น

 

ปี 2563-2565

  • บริษัทเข้าร่วมลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด (“เมกะวัตต์”) ซึ่งประกอบธุรกิจด้านพลังงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทหรือคิดเป็น 28.36 % ของทุนจดทะเบียนของเมกะวัตต์จำนวน 1,763 ล้านบาท

  • บริษัทจำหน่ายหุ้นทั้งหมดในบริษัท เจฟเฟอร์ เรสเตอรองต์ จํากัด ให้กับกลุ่มนางสุดารัตน์ ศุภพงษ์เทวาสกุล จะส่งผล ให้ WAVE Food ไม่มีการถือหุ้นใน Jeffer อีกต่อไป และสิ้นสุดการเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ

บริษัทจำหน่ายไปซึ่งหุ้นบริษัท อีเอสจี จํากัด จำนวน 74,950,200 หุ้น คิดเป็น 90% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท (ชื่อเดิม บริษัท เวฟ ฟู๊ด จำกัด) ให้กับ บริษัท ซันเทค รีไซเคิล แอนด์ ดีคาร์บอน จำกัด คงเหลือ 10%

 

ปี 2559 -2562

  • ดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มธุรกิจ

    • ดำเนินปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจการศึกษา เพื่อรองรับการขยายธุรกิจไปสู่ประชาคมอาเซียนในกลุ่ม CLMV โดยขายหุ้นทั้งหมดให้แก่ บริษัท เวฟ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทย่อยเข้าดำเนินกิจการ และเปิดเฟรนไซส์ ที่สาขา ขอนแก่น
    • ดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจด้านบันเทิง และ รายการโทรทัศน์ โดยการขายหุ้น ให้แก่ บริษัท เวฟ พิคเจอร์ส จำกัด (ปัจจุบัน ชื่อ บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด) และ เปลี่ยนการดำเนินธุรกิจเป็นการให้คำปรึกษา พัฒนาโครงการ และ ซื้อขาย คาร์บอน เครดิต และ ใบรับรองพลังงานหมุนเวียนครบวงจร
    • การจำหน่ายหุ้นในบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม
 

ปี 2557 - 2558

  • บริษัทขยายธุรกิจ โดย เข้าซื้อหุ้นใน บริษัทดังต่อไปนี้

    • บริษัทเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท บริษัท เอ็ฟฟิเชียนท์ อิงลิช เซอร์วิสเซส จำกัด (EES) ในสถาบันสอนภาษาอังกฤษภายใต้เครื่องหมายการค้า “Wall Street English”
    • บริษัทเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เจฟเฟอร์ เรสเตอรองต์ จำกัด ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Jeffer Steak & Seafood” โดยเข้าซื้อผ่าน บริษัท เวฟ ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย

เข้าซื้อหุ้น บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) จำนวน 86 ล้านหุ้น คิดเป็น 50% ของทุนออกจำหน่าย และชำระเต็มมูลค่าแล้ว

 

ปี 2553 - 2555

บริษัทดำเนินธุรกิจด้านบันเทิง และ รายการโทรทัศน์